Internet of things หรือ IoT เป็นคอนเซ็ปที่อุปกรณ์ต่างๆในชีวิตประจำวันของเรา เช่น รถ ประตูบ้าน แอร์ กล้อง cctv นาฬิกาข้อมือ ตู้ปลา กระถางต้นไม้ ถังขยะ กระจก เครื่องปิ้งขนมปัง โถส้วม ทุกอย่างเลย สามารถส่งข้อมูลหาศุนย์กลางการประมวลผล หรือ ส่งข้อมูลเพิ่อสื่อสารกันได้โดยผ่านตัวกลางอินเตอร์เน็ต ระบบเครื่อค่ายภายใน หรือ อะไรก็ได้ที่มันทำให้เกิดเครือค่ายอ่ะ คลื่นวิทยุ zigbee z-wave
Photo by Andres Urena / Unsplash
ทำไมต้องสื่อสาร
มันมีประโยชน์มหาศาล ขึ้นอยู่กับเราใช้กับอะไร ลองจิตนาการว่า
ถังขยะในกรุงเทพ
- ถังขยะทุกตัวของกรุงเทพ สามารบอกข้อมูลบอกว่ามันเต็มแล้วยัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บ จุดที่ไม่เต็มเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีความจำเป็นในการขับไปเก็บ
- ถังขยะทุกตัวของกรุงเทพ บอกว่าตัวเองอยุ่ตรงไหนของกรุงเทพ กรณีถุกเคลื่อนย้าย และให้ประชาชนเปิดดูว่าถังขยะใกล้ตัวเองอยู่แถวไหน
ลองจิตนาการว่า
คุณมีไร่องุ่น อยู่ 1000 ไร่
- ไร่องุ่นของคุณทุกไร่สามารถบอกได้ว่ามันพร้อมเก็บเกี่ยวหรือยัง
- ไร่องุ่นของคุณสามารถกรีดร้องขอกคุณว่า น้ำน้อยไปนะ แร่ธาตุน้อยไปนะ ความชื้นน้อยไปนะ และคุณสามารถสั่งรดน้ำ ให้แร่ธาตุจาก มือถือที่ไหนก็ได้ในโลก
ลองจิตนาการว่า
กล่องยาอาม่า
- กล่องยาอาม่า สามารถจ่ายยาที่เหมาะสม ตามความดันของอาม่า และสามารถบอกเรา/หมอว่าอาม่ากินยาหรือไม่ เวลาเท่าไหร และหลังให้ยาชีพจรเป็นยังไง อ่านจากเสื้อ sensor ของอาม่า
ตัวอย่างข้างบนบางส่วนมีใช้งานจริงแล้ว บางส่วนยังแต่ก็กำลังจะมี
คนจีนไม่รู้จัก concept IoT เยอะเท่าไหร (ซึ่งก็เรื่องปกติ เรารู้จักมือถือแต่ไม่เห็นต้องเข้าใจการทำงานมันเลย) แต่มันอยู่ในชีวิตประจำวันเค้าเลย
ยกตัวอย่าง แฟนเรา ญ่าหนี พาเราไปเช่าจักรยานขี่ ที่หางโจว เรามาเกือบทุกปี แต่ปีนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลง จาก 1 ปีก่อน
1 ปีก่อน เราเดินเข้าไปหาร้านจักรยาน วางเงิน deposit แล้วเช่าจักรยาน ขับกลับมาคืนแล้วเอาเงิน deposit เช่าจักรยานคิดราคาเป็นวัน
วันนี้ญ่าหนีเช่าจักรยานจากที่ไหนก็ได้ที่จักรยานมันจอดอยู่ กลางซอย มืดๆ ญ่าหนีเปิด alipay
หรือ Wechat pay
แล้ว Scan QR code, มือถือบอกว่า จะขอ deposite 100 หยวนนะ แล้วคิด ชั่วโมงละ 1 หยวน ญ่าหนีกด confirm แล้วจักรยานก็ unlock ตัวเอง ขี่ได้เลย - หมีตกใจ!! ในความง่ายแบบไม่ต้องคิดไร โอเคจักรยานนี่เราขี่นะ หลังจากปั่นไป ได้ 3 - 4 โล เราก็มาถึง mall ลงจากจักรยาน แล้วก็ดันปุ่มล็อกให้ล็อกขาจักรยาน แล้วก็เดินจากไป บ้าไปแล้ว ทำไมมันง่ายจัง ในมือถือมันก็แสดงว่า เลิกเช่าจักรยานแล้ว
หลังจาก shopping เสร็จ กลับมาจักรยานไม่อยู่แล้ว เข้าใจว่าคงมีคนเช่าไปแล้ว ญ่าหนีเลย เปิด app หาว่าจุดที่มีจักรยานใกล้สุดอยู่ตรงไหน หาเจอแล้วก็เช่าวิธีเดิม scan QR code บนจักรยาน จักรยานประเภทนี้มีเป็นพันคันทั่วเมืองแล้วนี่แค่ยี่ห้อเดียวนะ (https://www.ofo.com/ startup จากปักกิ่ง)
โดยสรุป user experience ของจักรยานหลักๆแล้วมี 2 แบบ
- ผู้ใช้งาน Scan QR code, server รับข้อมูลจากการ request และทำการ unlock. จักรยาน ถ้าจักรยานยังสามารถต่อ internet อยุ่
- ผู้ใช้งาน scan QR code ไม่ได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลได้ ผู้ใช้งาน request รหัส 4 หลัก แล้วเอามากดที่จักรยาน ซึ่งทำให้จักรยาน unlock ตัวเอง
ลองดู video กัน
วันเดียวกัน ญ่าหนีแบทมือถือหมดในร้านไอติม (ไปกินไอติมโอริโอ้) ทำไงดีๆ มือถือแบทจะหมดแล้วจะเช่าจักรยานขี่กลับยังไง ใช้นี่เลยครับ Ankerbox
เป็นกล่องที่มี powerbank อยุ่ภายใน สามารถเช่าได้คิดเป็นชั่วโมง ไม่อยากเล่าอยากให้ดู video
หลักการทำงาน
หลักการทำงานคล้าย การเช่าจักรยานครับ
ผู้ใช้งาน Scan QR code, เลือกว่าเป็น ios หรือ android (เพราะหัวชาจต่างกัน) หลังจากนั้นเครื่องกระพริบบอกว่าจะให้หยิบแบทจากจุดไหน ง่ายนิดเดียว เวลาคืนก็สามารถเอาคืนที่จุดไหนก็ได้ ก็ Scan ก่อน แล้วเครื่องจะบอกว่าให้คืนที่รูไหน ก็ยัดเข้าไป ง่ายเช่นกัน
สิ่งเหล่านี้(iot) รวมกับ cashless society ชีวิตมันก็ง่ายขึ้นนะเราว่า
Photo by Jonas Leupe / Unsplash